ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดนครราชสีมา
คำขวัญประจำจังหวัด
“เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน”
(คำขวัญเดิม โคราช ลือเลื่อง เมืองก่อนเก่า นกเขาคารม อ้อยคันร่ม ส้มขี้ม้า ผ้าหางกระรอก)
อักษรย่อ : นมสีประจำกลุ่มจังหวัด : สีแสด (สีส้ม)
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
รูปอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ประดิษฐานอยู่หน้า ประตูชุมพล ประตูเมืองทางด้านทิศตะวันตก
หมายถึง วีรกรรมอันกล้าหาญที่ท้าวสุรนารีได้กอบกู้เมืองนครราชสีมา จากกองทัพของเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ไว้ได้ ซึ่งตราประจำจังหวัดนครราชสีมา ภาพนี้มีฐานะเป็นตราราชการ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดภาพเครื่องหมายราชการ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 (ฉบับที่ 214) [ว่าด้วยการกำหนดเครื่องหมายราชการประจำจังหวัด 76 จังหวัด]ต้นไม้ประจำจังหวัด : ต้นสาธร (เดิมคือต้นราชพฤกษ์) ต้นไม้พระราชทานประจำจังหวัดนครราชสีมา (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงโปรดพระราชทานกล้าไม้มงคล พระราชทานประจำจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และจังหวัดได้ทำพิธีปลูกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา)
อาณาเขต :
มีพื้นทั้งหมดที่ประมาณ 20,493.964 ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 1)
ประชากร 2,571,292 คน (พ.ศ. 2552)(อันดับที่ 2)
ความหนาแน่น 125.47 คน/ตร.กม. (อันดับที่ 35)
ลักษณะภูมิประเทศ :
ลักษณะ ภูมิประเทศของจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่ราบสูงมีความสูงจากระดับน้ำทะเล ปานกลาง 200 - 300 เมตร ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย ด้านทิศตะวันตกและทิศใต้มีภูเขาและป่าเป็นแนว กั้นเขตแดน คือ ทิวเขาดงพญาเย็นและพนมดงรัก ในท้องที่อำเภอด่านขุนทด อำเภอสีคิ้ว อำเภอปากช่อง อำเภอปักธงชัย อำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสาง และพื้นที่ดังกล่าวค่อย ๆ ลาดลงมาทางทิศเหนือตามลำน้ำมูลและสาขาสำคัญ เช่น ลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำเชียงไกร ลำปลายมาศและลำแชะ เป็นต้น
ภูมิอากาศ :
สภาพภูมิอากาศของจังหวัดนครราชสีมาจัดอยู่ในประเภททุ่งหญ้าเขตร้อน (Tropical Savanna) โดยมีลมมรสุมหลักพัดผ่านคือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพัดจากทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง กับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้หรือทิศใต้ ทำให้มีอากาศชุ่มชื้นและมีฝนตกชุก โดยทั่วไปสามารถแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 3 ฤดู ดังนี้
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม ของทุกปี เริ่มมีฝนตกชุก ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนตุลาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนสูงสุดในเดือนตุลาคม
ฤดูหนาว สภาพอากาศจะเริ่มเปลี่ยนจากฤดูฝนไปสู่ฤดูหนาวตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลาง เดือน กุมภาพันธ์ ระยะนี้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมหนาวและแห้งพัดจากประเทศจีน
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ช่วงที่อากาศร้อนที่สุดอยู่ในเดือนมีนาคม มีอุณหภูมิสูงสุด 36.88 องศาเซลเซียส
ประชากร
ปัจจุบัน จังหวัดนครราชสีมามีประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ มากเป็นอันดับสองของประเทศรองจากกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยประชากรหลากหลายเชื้อชาติ หรือหลายชาติพันธุ์
อาชีพ :
อาชีพหลักคือ การทำนา ทำไร่ มีพืชสำคัญ เช่น ข้าวเจ้า ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปอ ฝ้าย และข้าวฟ่าง ซึ่งมีปลูกกันมากที่อำเภอโนนไทย และด่านขุนทด นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงไหม โดยเฉพาะที่อำเภอปักธงชัยเป็นแหล่งผ้าไหมที่ขึ้นชื่อ อาชีพการทำป่าไม้พอมีบ้าง มีการเลี้ยงสัตว์ และประมงน้ำจืดตามลุ่มน้ำ ทรัพยากรแร่ที่สำคัญคือ เกลือหิน
ด้านการอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานที่เกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตร เช่นโรงสีข้าว โรงทำมันเส้น มันอัดเม็ด ทำน้ำตาล ทอกระสอบ ทอผ้าไหม ทำแป้งมันสำปะหลัง ฟาร์มไก่ ฟาร์มหมู ฯลฯ
อุตสาหกรรม ในครัวเรือน เช่น การทอผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ เครื่องจักสาน และการทำเครื่องปั้นดินเผาที่ด่านเกวียน อำเภอโชคชัย
ในปัจจุบัน นครราชสีมา ได้ชื่อเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ประชาชนส่วนมากจึงเริ่มประกอบอาชีพที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและการรับส่งสินค้า เช่น โรงแรม รีสอร์ท บ้านพัก ที่ดินจัดสรร นำเที่ยว สินค้าของที่ระลึก ฟาร์มผัก ฟาร์มองุ่น ฟาร์มโคนม ขนส่งผัก เนื้อ นม จากฟาร์ม สู่ตลาดกลางในกรุงเทพฯ เป็นต้น